ติดต่อ webmaster

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
083-5480881 คุณยุทธ
082-7658471 คุณบี

หรือชมสินค้าอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fasterinter.com

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ประเภทถังดับเพลิงในประเทศ

ประเภทถังดับเพลิงในประเทศไทย



ถังดับเพลิงดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ( Dry Chemical Powder )



( นิยมบรรจุถังสีแดง ต่างประเทศบรรจุถังสีฟ้า )บรรจุผงเคมี ซึ่ง มีหลายชนิด หลายคุณภาพไว้ในถัง แล้วอัดแรงดันเข้าไป เวลาใช้ ผงเคมีจะถูกดันออกไปคลุมไฟทำให้อับอากาศ ควรใช้ภายนอกอาคาร เพราะผงเคมีเป็นฝุ่นละอองฟุ้งกระจายทำให้เกิดความสกปรก และเป็นอุปสรรคในการเข้าผจญเพลิง อาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าราคาแพง เสียหายได้

ใช้ดับไฟได้ดีคือ ไฟประเภท B

ผงเคมีไม่เป็นสื่อไฟฟ้า สามารถดับไฟประเภท C ได้ (แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าอาจเสียหาย)

การดับไฟประเภท A ต้องมีความชำนาญและควรใช้น้ำดับตาม
ถังดับเพลิงชนิดฟองโฟม ( Foam )
( นิยมบรรจุในถังอลูมิเนียมสีครีมหรือถังสแตนเลส มีหัวฉีดเป็นหัวฝักบัว )บรรจุอยู่ในถังที่มีน้ำยาโฟมผสมกับน้ำแล้วอัดแรงดันเข้าไว้ ( นิยมใช้โฟม AFFF ) เวลาใช้ ถอดสลักและบีบคันบีบ แรงดันจะดันน้ำผสมกับโฟมผ่านหัวฉีดฝักบัว พ่นออกมาเป็นฟอง กระจายไปปกคลุมบริเวณที่เกิดไฟไหม้ ทำให้อับอากาศขาดออกซิเจน และลดความร้อน

ใช้ดับไฟประเภท A และ B

ถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ ซีโอทู (Carbondioxide)


( นิยมบรรจุถังสีแดง ต่างประเทศบรรจุถังสีดำ ) บรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ในถังที่ทนแรงดันสูง ประมาณ 800 ถึง1200 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว ที่ปลายสายฉีดจะมีลักษณะเป็นกระบอกหรือกรวย เวลาฉีดจะมีเสียงดังเล็กน้อย พร้อมกับพ่นหมอกหิมะออกมาไล่ความร้อน และออกซิเจนออกไป ควรใช้ภายในอาคารที่ต้องการความสะอาด โดยฉีดเข้าใกล้ฐานของไฟให้มากที่สุด ประมาณ 1.5 – 2 เมตร เมื่อใช้งานแล้วจะไม่มีสิ่งสกปรกหลงเหลือ


ใช้ดับไฟประเภท B และ C

ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย ฮาโลตรอน ( Halotron )



(นิยมบรรจุถังสีเขียว) แต่เดิมบรรจุน้ำยาเหลวระเหย ชนิด BCF Halon โบรโมคลอโร ไดฟลูออโร ซึ่งเป็นสาร CFC ไว้ในถังสีเหลือง ใช้ดับไฟได้ดีแต่มีสารพิษ และในปัจจุบันองค์การสหประชาชาติ ประกาศให้เลิกผลิตพร้อมทั้งให้ทุกประเทศ ลดการใช้จนหมดสิ้น เพราะเป็นสารที่ทำลายสิ่งแวดล้อมโลก บางประเทศเช่น ออสเตเลีย ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ปัจจุบันน้ำยาเหลวระเหยที่ไม่มีสาร CFC มีหลายยี่ห้อ และหลายชื่อ

ใช้ดับไฟประเภท A B และ C

ถังดับเพลิงชนิดละอองน้ำแรงดันต่ำ

ภายในบรรจุด้วยน้ำยาเคมีนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีคุณสมบัติในการดับเพลิงสูง สามารถดับเพลิงได้ ครอบคลุมทุกประเภทซึ่งในประเทศไทยได้มีการเปิดตัวเครื่องดับเพลิงชนิดนี้ระมาณ 5 ปี ซึ่งยังทำให้ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป แต่ในอนาคตเครื่องดับเพลิงจะถูกเปลี่ยนเป็นชนิดนี้หมดเเล้ว

ใช้ดับไฟประเภท A B C D และ K

ถังดับเพลิง FireAde2000 vs ถังดับเพลิงเคมีแห้ง

การทดลองนี้ได้ทดลองจากบริษัทยางในอเมริกาเพื่อทดสอบความสามารถในการดับไฟจากยางรถยนต์โดย

ใช้ยางรถยนต์จำนวน 2 กอง ซึ่งกองแรกจะใช้ยางจำนวน 6 เส้น

ไว้สำหรับใช้ถังดับเพลิง FireAde2000 อีกกองนึง ใช้ยางรถยนต์จำนวน 3 เส้น

สำหรับให้ถังดับเพลิงเคมีแห้งในการดับ (มีการต่อให้ครึ่งนึง)


ยางรถยนต์ได้ทำการเผาและทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้ไฟได้กินเนื้อยางทำให้ดับยากมาก เนื่องจากไฟถ้าเกิดการเผาไหม้ เกิน 4 นาที จะให้ให้มีอุณภูมิเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า เรามาลองดูกันว่า ถังดับเพลิง FireAde2000 จะสามารถดับเจ้าไฟกองนี้ได้หรือไม่


พนักงานดับเพลิงได้ใช้ถังดับเพลิงเคมีแห้ง ดับกองยางรถยนต์ ขนาด 3 เส้น จะสังเกตุได้ว่าการใช้ถังดับเพลิงเคมีแห้งในการดับเพลิง นั้นจะมีผงฝุ่นฟุ้งกระจายและควันจำนวนมากทำให้เป็นอุปสรรคในการดับเพลิง





พนักงานดับเพลิงใช้ถังดับเพลิง FireAde2000 ในการดับเพลิง ซึ่งถังดับเพลิง FireAde2000 สามารถลดความร้อนและควันได้อย่างรวดเร็วซึ่งมีความสามารถ ลดความร้อนได้มากกว่าน้ำ 20 เท่า จึงทำให้สามารถจับยางรถยนต์ด้วยมือเปล่าได้ทันที





กองซ้ายเป็นกองยางที่ใช้ถังดับเพลิงเคมีแห้งในการดับ

กองขวาเป็นกองยางที่ใช้ถังดับเพลิง FireAde2000 ในการดับ





ข้อแตกต่าง

1.กองที่ใช้ถังดับเพลิงเคมีแห้งดับจะมีฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณที่ดับและยังมีควันจำนวนมาก

2.ถังดับเพลิงเคมีแห้งไม่สามารถยับยั้งการประทุซ้ำของไฟได้

ไฟจึงลุกติดขึ้นมาใหม่อีกครั้งทำให้ไฟอาจจะลุกลามไปยังที่อื่นได้

3.ความร้อนสะสมของยางรถยนต์ยังคงมีอยู่ซึ่งถ้ามีองค์ประกอบอื่นเข้ามาจะทำให้ไฟสามรถลุกติดขึ้นมาได้อีกครั้ง

4.ปริมาณในการใช้ถังดับเพลิงในการดับ ถังดับเพลิง FireAde2000

ใช้เพียง 1 ถัง ขนาด 15ปอนด์ สามารถดับไฟลงได้ซึ่งถ้าเป็นถังดับเพลิงชนิดอื่น

อาจจะต้องใช้ถังดับเพลิงประมาณ4-5ถังในการดับเพลิงขนาดเท่ากัน

ข้อสรุปที่ใช้ถังดับเพลิง FireAde 2000
1.สามารถลดความร้อนและดับเพลิงได้อย่างรวดเร็วและไม่ทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างอยู่จึงง่ายต่อการทำความสะอาด

2.ยับยั้งการประทุซ้ำอย่างถาวรของเพลิงที่เกิดขึ้นดับแล้วดับเลยไม่ลุกติดขึ้นมาอีก

3.ลดจำนวนควันของยางรถยนต์ได้มากกว่าถังดับเพลิงชนิดอื่น

4.ประหยัดและคุ้มค่ากว่าถังดับเพลิงชนิดอื่นหลายเท่าตัว